เรื่องของรถ

เปิดดูhttp://www.youtube.com/watch?v=EKDPRWUBDgU&feature=related

คลิปตลก

คลิปตลกสุดยอดคลิกที่นี่

                         อันที่2

พิษณุโลกตื่น! ธรณีระอุไฟลุกพื้นลวกชาวบ้าน

25 เม.ย. - เกิดปรากฏการณ์ไฟระอุใต้พื้นดินที่ อ.นครไทย จ.พิษณุโลก กินพื้นที่ 100 ตารางวา ทำให้ชาวบ้านถูกไฟลวกเท้า และสัตว์เลี้ยงล้มตาย
เจ้าหน้าที่ป้องกันและป้องกันสาธารณภัยจังหวัดพิษณุโลก และเจ้าหน้าที่สำนักงานสิ่งแวดล้อมภาคที่ 3 เข้าตรวจสอบบริเวณหมู่ 9 บ้านเนินตาโนน ต.หนองกะท้าว อ.นครไทย จ.พิษณุโลก จุดที่เกิดไฟระอุอยู่ใต้พื้นดินกินพื้นที่กว้าง 100 ตารางวา ริมถนนสายนครไทย-ด่านซ้าย พบซากสุนัขถูกไฟคลอกจนไหม้เกรียม และพบรอยแยกของพื้นดินความลึก 50 เซนติเมตร ถึง 1 เมตร เมื่อนำเศษไม้และกระดาษโยนลงไปเกิดไฟลุกไหม้ทันที นอกจากนี้ ยังมีชาวบ้าน 3 คน ได้รับบาดเจ็บเนื่องจากถูกไฟลวกที่ฝ่าเท้า วัวตาย 1 ตัว รวมทั้งสุนัขและแมว
สำหรับพื้นที่แห่งนี้เคยเป็นโรงเลื่อย คาดว่าขี้เลื่อยที่ทับถมกันมานาน ประกอบกับอุณหภูมิโลกสูงขึ้น อาจทำให้เกิดการปฏิกิริยาสันดาปจากคลื่นความร้อนกระทบกับขี้เลื่อย จนเกิดประกายไฟ
ล่าสุด เจ้าหน้าที่องค์การบริหารส่วนตำบลหนองกะท้าวได้นำเชือกมาล้อมกันพื้นที่ พร้อมเขียนป้ายห้ามเข้าเขตอันตราย และขอให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องเข้ามาพิสูจน์ถึงสาเหตุของการเกิดไฟระอุใต้พื้นดินครั้งนี้ - สำนักข่าวไทย

เลือกหมอนให้นอนหลับฝันดี

เลือกหมอนให้นอนหลับฝันดี
แต่เรื่องที่จะนอนให้หลับฝันดีได้ มันก็ต้องมีองค์ประกอบหลายส่วนเข้ามาเกี่ยวข้องกัน หนึ่งในนั้นก็คือต้องรู้จักเลือกหมอนดีๆ มาหนุนศีรษะด้วย เชิญตอบแบบสอบถาม รับรางวัลมากมาย เข้าสู่แบบสอบถาม
เรื่องของหมอนหนุนนอนนั้นต้องถือได้ว่าเป็นของส่วนตัวอีกชิ้นหนึ่ง ที่เรามักจะพูดคุยแลกเปลี่ยนข้อมูลกันน้อยมาก บ้างก็มองข้ามความสำคัญไปซะงั้น แต่ความจริงแล้วก่อนจะเลือกซื้อหมอนก็มีเรื่องที่ต้องให้ความสำคัญนำมาพิจารณาอยู่สัก 4 หัวข้อด้วยกันคือ
ข้อแรก ต้องรู้กันก่อนว่าตัวเรา เป็นโรคภูมิแพ้อะไรบ้างหรือเปล่า อย่างบางคนแพ้ปุยนุ่น หรือละอองขนเป็ดขนไก่ที่ใช้เป็นวัสดุไส้ในของหมอน ก็ต้องหลีกเลี่ยงวัสดุที่เราแพ้เหล่านั้น ไปใช้อย่างอื่นแทน อาจจะเป็นโฟม โพลีเอสเตอร์ หรือวัสดุธรรมชาติอย่างอื่น เป็นต้น
ข้อสอง เป็นเรื่องของขนาด แต่ละคนก็ชอบขนาดหมอนที่เล็กใหญ่แตกต่างกันไป บางคนก็ชอบมีหมอนกองเต็มเตียง แต่พอเอาเข้าจริงตอนนอนก็ใช้หมอนแค่หนึ่งหรือสองใบแค่นั้นเอง
ถัดมา ต้องดูว่าหมอนมี ความสามารถ ในการรองรับ ดีพอหรือไม่ ควรจะทดสอบความแน่นของหมอน โดยที่ถ้ามันมีแรงดัน นิดหน่อยก็แสดงว่าจะรองรับศีรษะได้มากกว่า สำหรับคนที่มักจะนอนหงายควรเลือกหมอนที่ต่ำและนิ่มกว่าเพื่อให้คออยู่ในตำแหน่งที่สบาย แต่ถ้าเป็นคนชอบนอนตะแคง ควรจะเลือกหมอนสูงกว่าสักหน่อย เพื่อจัดแนวสันหลังให้อยู่ในแนวตรงที่พอเหมาะพอดี
สุดท้าย เป็นเรื่องของ การดูแลรักษา ควรใช้ปลอกหมอนกันเปื้อนเพื่อยืดอายุการใช้งานไปได้นาน ๆ เพียงแค่นี้ก็คงจะพอช่วยให้นอนหลับฝันดี มีภูมิคุ้มกันโรคหวัดกันได้อย่างง่ายๆ ต่อไปตราบนาน.

บริหารสมองเป็นสองเท่า

เปิดเข้าไปดูกันได้เลยน่ะค่ะคลิกที่นี่น่ะค่ะ

อาหารพัฒนาสมอง

สวัสดีค่ะน้องๆ.... อากาศร้อนๆ แบบนี้ เรามาคุยกันเรื่องของกินดีกว่า (เกี่ยวมั้ยเนี่ย) แต่ของกินที่จะแนะนำในวันนี้ ไม่ได้มีดีแค่ช่วยให้หายหิว หรือให้สารอาหารเท่านั้น แต่ยังมีคุณสมบัติล้ำเลิศช่วยบำรุงสมองเราด้วย

เชื่อว่าน้องๆ ต้องเคยสงสัยจนต้องไปถามเพื่อนที่เรียนเก่งที่สุดของห้อง ด้วยคำถามสุดฮิตว่า " กินอะไรเป็นอาหาร ทำไมถึงเรียนเก่งจัง" หรือ "ที่บ้านเลี้ยงด้วยอะไร จะไปหามากินมั่ง" ใช่มั้ยล่ะคะ??
ซึ่งเราก็มักจะไม่ได้คำตอบหรอกค่ะ เพราะเจ้าตัวยังไม่รู้เลยว่ากินอะไร แต่ที่นี่ไมได้ฉีกหนังสือกินเป็นอาหารแน่นอน ความจริงแล้ว ไม่มีอาหารชนิดไหนที่จะช่วยให้เราฉลาดขึ้นโดยตรง แบบกินปุ๊บฉลาดปั๊บหรอกค่ะ แต่มันจะเป็นสารอาหารที่ช่วยในการทำงานของระบบสมองให้มีประสิทธิภาพมากขึ้น ถ้าอยากรู้ว่ามีอะไรบ้าง ไปดูกันเลย

กลุ่มที่ 1: กินเข้าไป เพิ่มความจำ
การที่คนเราจะฉลาดได้ ส่วนหนึ่งต้องมาจากความจำ ความจำดี เราก็มีความรู้เยอะ ซึ่งความจำจะมีทั้งความจำระยะสั้น คือ ความจำเฉพาะหน้า จำได้แค่ช่วงระยะเวลาหนึ่ง อีกประเภท คือ ความจำระยะยาว เช่น การจำชื่อคน จำเบอร์โทรศัพท์ตัวเองเป็นต้น เมื่อถึงระยะเวลาหนึ่งความจำเราจะมีประสิทธิภาพลดลง ถ้าไม่ได้รับการฝึกฝนด้านความจำบ่อยๆ ก็มีสิทธิ์เป็นอัลไซเมอร์ตอนแก่ได้นะคะ





สำหรับอาหารที่ช่วยเพิ่มความจำของเรา ต้องยกให้สารสกัดจากแปะก๊วย ช่วยเรื่องความจำโดยตรง แถมยังป้องกันภาวะสมองเสื่อมได้ด้วย นอกจากนี้ก็จะเป็นสารอาหารประเภทวิตามินบีและอีช่วยบำรุงประสาท ซึ่งจะอยู่ในอาหารประเภท นมถั่วเหลือง เนื้อสัตว์ นม ไข่ ธัญพืชต่างๆ ตั้งแต่ถั่ว ข้าวซ้อมมือ ซีเรียลต่างๆ โยเกิร์ต เรียกว่าช่วยด้านความจำโดยตรงเลย แถมยังเป็นอาหารที่หาได้ง่ายๆ อีกด้วย เอ้า กินนมกันเยอะๆ นะเด็กๆ


กลุ่มที่ 2 : เพิ่มประสิทธิภาพการทำงานของสมอง เสริมไอคิว
อาหารกลุ่มนี้จะเข้าไปช่วยการทำงานของสมองโดยตรง ไม่ว่าจะช่วยฟื้นฟู หรือไปช่วยเสริมสร้างเติมเต็ม ให้การทำงานของสมองมีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น สารอาหารในกลุ่มนี้ได้แก่ โอเมก้า3 และ DHA ไอโอดีนและธาตุเหล็ก
อาหารที่มีโอเมก้า 3 และ DHA ก็ไม่ต้องสืบเลย อยู่ในปลาทะเลเป็นส่วนใหญ่ แต่ถ้าหาทานได้ยาก ปัจจุบันก็มีอาหารเสริมประเภทน้ำมันปลา ซึ่งกรดไขมันโอเมก้า3 นี้ จะช่วยเพิ่มสมรรถภาพด้านความจำ และไปสร้างเซลล์สมองที่จำเป็นต่อการเรียนรู้

สำหรับไอโอดีน เป็นสารอาหารที่เกี่ยวข้องกับสมองและระบบประสาท จำเป็นต้องได้รับตั้งแต่เด็กๆ เลย ไอโอดีนจะอยู่ในอาหารทะเล ดังนั้นเรียกว่าหากินกันได้ง่ายมากๆ
ส่วนแร่ธาตุอีกชนิด คือ ธาตุเหล็ก ชนิดนี้ก็ไม่ได้ยิ่งหย่อนไปกว่าตัวอื่นๆ เพราะธาตุเหล็กช่วยเสริมไอคิวได้เป็นอย่างดี มีการสร้างเยื่อหุ้มไมอีลีนสำหรับเซลล์ประสาท ทำให้การส่งสัญญาณประสาทมีประสิทธิภาพมากขึ้น ซึ่งนักวิจัยประเทศอเมริกาได้เคยทำวิจัยพบว่า เด็กที่ธาตุเหล็กสอบจะได้คะแนนน้อยกว่าเพื่อนร่วมชั้นเรียน และยิ่งเวลาผ่านไปนานขึ้น คะแนนก็ยิ่งห่างไปเรื่อยๆ น้องๆ ก็ควรรีบหาธาตุเหล็กมาเสริมด่วนเลย เช่น เนื้อสัตว์ ไข่แดง ตับ ในผักก็มีด้วย เช่น ผักโขม บล็อคโคลี่ ตำลึง ส่วนใหญ่ก็คือผักใบเขียวนั่นเอง
กลุ่มที่ 3: กินลดความเครียด
ถึงจะไม่เกี่ยวข้องกับความฉลาดโดยตรง แต่ความเครียดก็ถือว่าเป็นศัตรูตัวฉกาจของการเรียนรู้เลยก็ว่าได้ ดังนั้นน้องๆ ต้องลดความเครียดเหล่านี้ลง เพื่อให้เกิดสมาธิ และเรียกการทำงานของสมองให้กลับคืนมา
โดยอาหารในกลุ่มลดความเครียด ส่วนใหญ่จะเป็นอาหารที่อุดมไปด้วยวิตามินบีค่ะ ซึ่งวิตามินบีนอกจากจะช่วยเรื่องความจำแล้ว ยังช่วยเพิ่มสารแห่งความสุขได้ด้วยค่ะ เช่น ปลาทูน่า ไม่เชื่อก็ต้องเชื่อค่ะ ว่าปลาทูน่านี่ลดความเครียดได้ด้วย
นอกจากนี้ในกลุ่มของวิตามินซี ก็ช่วยลดความเครียดได้ดี เพราะช่วยเติมความสดชื่นให้กับสมองและร่างกาย มักจะมีอยู่ในผลไม้ต่างๆ เรียกว่าเกิดเป็นคนไทยนี่โชคดีมากๆ เลยที่มีผลให้กินกันทุกฤดู ผลไม้ที่ลดความเครียดได้ เช่น ส้ม กล้วย ฝรั่ง ซึ่งมีวิตามินซีสูง แต่ถ้ามาแบบอิมพอร์ตหน่อยก็ต้องบลูเบอร์รี่ ช่วยลดอาการปวดหัวได้ด้วยนะ
แต่เวลาที่พี่มิ้นท์เครียด จะคว้าช็อคโกแลตมาทานทันที กินแบบไม่ต้องกลัวอ้วนไปเลยค่ะ ซึ่งช็อคโกแลตที่ดูว่าเป็นขนมหวาน จริงๆ แล้วมีคุณสมบัติในการลดความเครียดได้ดีทีเดียว เพราะในโกโก้มีสารเซราโทนิน ทานแล้วจะรู้สึกดี ลดความเครียดได้
แหม..พูดเรื่องกินกันล้วนๆ ว่าแล้วก็หิวขึ้นมาทันที ซึ่งแต่ละอย่างก็เป็นของโปรดทั้งนั้นเลย ทีนี้เวลาหิวต้องหาของพวกนี้มากินซะแล้ว ทั้งอร่อย ทั้งมีประโยชน์ ส่วนชาว Dek-D ถ้ารู้ว่าอะไรมีประโยชน์แล้วก็อย่าลืมหามาทานกันนะคะ

กินแล้วก็อย่าลืมทบทวนบทเรียนบ่อยๆ ด้วยนะ กินอย่างเดียวแต่ไม่ยอมอ่านหนังสือ สมองก็คงไม่ช่วยให้เราได้ A แน่ๆ
--------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------
ขอบคุณข้อมูลากพี่มิ้นท์ เด็กดี

อาหารริมทางในไทยที่ฝรั่งต่องลองชิม

10 10. น้ำแข็งใส เมื่อชาวต่างชาติมาเที่ยวเมืองไทยคงพบเจออากาศร้อนในบ้านเราอย่างแน่นอน และหนึ่งเมนูร้านอาหารข้างทางที่พวกเขาเรียกสั่งมาดับร้อนคงหนีไม่พ้นอย่าง “น้ำแข็งใส” จะเลือกน้ำลำใย น้ำขิง น้ำกะทิ หรือน้ำผลไม้ต่างๆ มาราดน้ำแข็งป่นก็แล้วแต่ใจชอบ นอกจากนี้ น้ำแข็งใสบ้านเรายังเลือกใส่ท็อปปิ้งได้หลากหลายอีกต่างหาก

9 9. ก๋วยเตี๋ยวต้มยำ เป็นอีกเมนูที่วัดใจชาวต่างชาติในเรื่องความเผ็ดเลยก็ว่าได้ ถ้าไม่แน่จริงหรือกลัวเผ็ด ควรหลีกเลี่ยงเมนูนี้ไปได้เลย ก๋วยเตี๋ยวต้มยำบ้านเรามีรสเผ็ดจัดจ้าน ที่มีส่วนประกอบไปด้วย เส้นก๋วยเตี๋ยว ถั่วลิสง พริกแห้ง น้ำตาล และน้ำมะนาว แถมโรยหน้าตะไคร้หั่นแล้ว และไข่ต้มหรือจะเป็นลูกชิ้น ก็แล้วแต่ลูกค้าจะสั่ง อ่านแล้วหิวแซ่บขึ้นมาทันที แต่สำหรับฝรั่งคงได้หยดเหงื่ออย่างแน่นอน

8 8. ลูกชิ้นปิ้งต่างๆ อีกหนึ่งเมนูที่เรียกว่าหาทานได้ง่ายทั่วกรุงเทพฯ หรือแม้แต่ในต่างจังหวัด ลูกชิ้นปิ้งมีเนื้อต่างๆให้เลือกตามใจชอบทั้งลูกชิ้นเนื้อหมู ไก่ ปลา เนื้อ ฯลฯ เมื่อนักท่องเที่ยวซื้อเสร็จก็เดินไป กินไปอย่างชิลๆในกรุงเทพฯ

7 7. ก๋วยเตี๋ยวพริกไก่ เป็นเมนูอาหารที่ผสมผสานระหว่างเอาปีกไก่ลงไปในน้ำต้มเกาเหลาพริก จนเรียกเมนูนี้ว่า “ก๋วยเตี๋ยวพริกไก่” ถ้าได้ทานเป็นอาหารเช้าคงเรียกความกระปี้กระเปร่าให้กับร่างกายได้อย่างดี

6 6. ข้าวหมกไก่ นักท่องเที่ยวชาวตะวันตกคงจะสะดุดกับสีสันของอาหารจานเป็นอย่างยิ่ง ที่มีสีเหลืองไปทั้งจานและชวนน่ากิน นี่คืออาหารของชาวมุสลิมที่หากินง่าย และราคาไม่แพงอย่างที่คิด และรสชาติคงไม่เผ็ดเกินที่ฝรั่งจะรับประทานได้

5 5. ไข่เจียวปู จะให้ฝรั่งเรียกว่า ไข่เจียว ยากเกินและอาจจะออกเสียงเพี้ยนอีกด้วย เพื่อการสื่อสารที่ง่ายต่อการเข้าใจระหว่างฝรั่งกับคนไทย จึงเหมารวมไข่เจียวไปว่า “ออมเลต” เป็นเมนูที่ชาวต่างชาติสั่งสะดวกได้ง่าย และใช้เวลาทำไม่นานมากนัก เหมาะสำหรับในช่วงเวลาเร่งรีบในกรุงเทพฯ

4 4. ซาโมซ่า อาหารพื้นเมืองของอินเดีย ที่กลายมาเป็นอาหารข้างทางยอดฮิตในเมืองไทย มีลักษณะเหมือนแป้งกรอบ คล้ายปอเปี๊ยะทอด ใช้รับประทานทานคู่กับซอสมะเขือเทศหรือทาร์ตซอสมะขาม อีกหนึ่งทางเลือกสำหรับอาหารเทศข้างทางในเมืองไทย

3 3. บะหมี่แห้ง หลังจากเหนื่อยมาจากกิจกรรมต่างๆในแต่ละวัน และต้องการหาอะไรทานที่อร่อยและอิ่มท้องไปด้วยนั้น บะหมี่แห้ง เป็นอีกเมนูที่น่าสนใจ สั่งแล้วไม่ต้องรอนาน แถมมีโต๊ะนั่งลูกค้าให้รับประทานที่ร้านด้วย หรือไม่สะดวกจะกินที่ร้านก็สั่งกลับบ้านก็ยังได้

2 2. ก๋วยเตี๋ยวหลอด อาหารจานเด็ดสไตล์จีนแต่ไทยทำ ที่มีเนื้อแป้งบางห่อไส้ที่ประกอบไปด้วย เนื้อหมู เห็ด ปลาหมึก จากนั้นก็โรยด้วย ถั่วงอก กระเทียมป่น และซอสหวาน จากนั้นเอาแป้งบางๆนี่ห่อไส้เอาไว้แล้วม้วนเป็นรูปหลอด แล้วทานคู่กับน้ำจิ้มรสเผ็ดเปรี้ยว แค่นี้เรียกน้ำย่อยกันทีเดียว

1 1.หอยทอด นี่คือเมนูเซอร์ไพรส์ของนักท่องเที่ยวต่างชาติ และคนไทยเองด้วย ไม่นึกว่าว่าพวกเขามาเมืองไทยต่างยกให้เป็นหนึ่งในเมนูอาหารที่ต้องหาซื้อกินตามท้องถนนในเมืองไทย ซึ่งชาวต่างชาติเข้าใจไปว่านี่มันคือ ออมเลตหอยนางรม แต่ความจริงแล้วมันคือ แป้งมันทอดผสมไข่และหอยนางรมผัดไปด้วยกันจริงเกิดเมนูนี้ขึ้นมา

10 อันดับหนังทำเงินสุดสัปดาห์ 12-15 เมษายน 2555

10 The Vow The Vow อันดับ 10 The Vow หนังน้ำเน่านางเอกความจำเสื่อม ที่สร้างกระแสได้อย่างมากมายตอนฉายในบ้านเกิด แต่พอนำเข้ามาฉายในบ้านเราเมื่อต้นเมษายนที่ผ่านมา ก็เปิดตัวแค่ไม่กี่โรงฉาย และพอเข้าสู่สัปดาห์ที่ 2 ก็เกือบจะหลุดวงโคจรไปแล้ว สาเหตุหลักก็แน่นอน พล็อตเรื่องมันเหมือนดูละครน้ำเน่าหลังข่าวของบ้านเรานั่นเอง เพียงแต่ว่านักแสดงมันจมูกโด่งกว่า!The Vow เก็บเพิ่มไปอีกประมาณ 4 แสนบาท จากโรงฉายแค่ 3 โรง ถ้าเทียบต่อโรงแล้ว รายได้เฉลี่ยนับว่าสูงเป็นอันดับ 2 รองจากแชมป์เลยทีเดียว รวมรายได้ 2 สัปดาห์ประมาณ 1.5 ล้านบาท

9 Home ความรัก ความสุข ความทรงจำ อันดับ 9 Home ความรัก ความสุข ความทรงจำ เป็นหนังที่เรียกกระแสได้แรงส์มาก ตั้งแต่ยังไม่เปิดตัวจริงๆจังๆ เพราะแค่เปิดตัวรอบหลัง 2 ทุ่มจากทั้งหมด 48 โรงฉาย หนังก็เก็บรายได้ก่อนฉายจริง 19 เมษายน ไปแล้วกว่า 6 แสนบาท เห็นอย่างนี้แล้วก็น่าชื่นใจสำหรับหนังไทยซักเรื่องที่มีคนให้ความสนใจ แต่ว่าหนังจะดีหรือจะห่วย นั่นก็ขึ้นอยู่กับความคิดเห็นของแต่ละคน!

8 Salmon Fishing in the Yemen อันดับ 8 Salmon Fishing in the Yemen หนังดราม่าเข้าฉายจำกัดโรง เปิดตัวเพียง 15 โรงฉาย ก็เก็บรายได้ไปถึง 9 แสนบาท คุ้มมากๆ สำหรับหนังที่ลงทุนไปถึงเยเมน และให้นักแสดงนั่งตกปลา! อิอิ..ล้อเล่น ว่าแต่ ถ้าอยากรู้ว่ามันเกี่ยวอะไรกับการตกปลา และทำไมถึงต้องไปตกกันที่เยเมน ลองไปดูซักครั้ง แล้วจะกระจ่าง!

7 The Cold Light of Day อันดับ 7 The Cold Light of Day เปิดตัวตั้งแต่สัปดาห์ก่อนสงกรานต์ พอเข้าสู่สัปดาห์สงกรานต์ คนดูก็คงเบือกันหมดแล้ว เพราะรายได้ตกลงจากสัปดาห์แรกถึง 80 กว่าเปอร์เซนต์!ช่างน่าอัปยศอดสู เห็ดหูหนู ยิ่งนัก!The Cold Light of Day เก็บเพิ่มไปอีกเพียง 1 ล้านบาท รวมรายได้ 2 สัปดาห์ทำไปประมาณ 9 ล้านบาท

6 The Hunger Games อันดับ 6 The Hunger Games กระแสของหนังเรื่องนี้เริ่มซาลงแล้ว จากรายได้สัปดาห์ที่ 4 เก็บไปได้อีก 1.8 ล้านบาท เป็นรายได้ที่ลดลงจากสัปดาห์ก่อนถึงกว่า 70 เปอร์เซนต์!รายได้รวมในบ้านเรา 4 สัปดาห์ทำไป 60 ล้านบาท เทียบไม่ได้กับรายได้ในอเมริกาที่จ้ำอ้าว วิ่งหนีเรื่องอื่นไปไหนต่อไหน! นี่ขนาดโหมโปรโมทกันอย่างรุนแรงส์แล้วนะ!

5 ปล้นนะยะ 2 อั้ยย่ะ และแล้วก็เข้าสู่ครึ่งทางกันในอันดับ 5 สำหรับอันดับนี้ หนังที่ครองตำแหน่งได้แก่ ปล้นนะยะ 2 อั้ยย่ะ ที่ต้องบอกว่า เกือบเจ๊งแล้วนะยะ!เพราะร่วงลงมาจากสัปดาห์ก่อนถึง 70 เปอร์เซนต์ เก็บเพิ่มไปอีก 2.1 ล้าน รวม 2 สัปดาห์ทำไป 13 ล้านบาท ถ้าทุนสร้างมากกว่า 10 ล้านก็ "เจ๊งแน่ย่ะ" แต่ถ้าน้อยกว่านั้นก็ "รอดตัวไป" ส่วนผลลัพธ์จะลงเอยแบบไหน ก็แล้วแต่บุญแต่กรรมแล้วกัน!!!

4 Wrath of the Titans ถัดขึ้นมาเป็นหนังสงคราม Wrath of the Titans ในอันดับ 4 ที่ตกสวรรค์มาจากบัลลังก์แชมป์ หลังจากที่นั่งน้ำลายยืดรอบนบัลลังก์มาเกือบ 2 สัปดาห์เต็ม!เข้าสู่สัปดาห์ 3 หนังสงครามเทพพิโรธ เก็บรายได้ไปอีก 3.2 ล้านบาท ตกลงจากสัปดาห์ก่อนถึง 83 เปอร์เซนต์ ร่วงแรงส์กว่าหนังทุกเรื่องในชาร์ตสัปดาห์นี้! เนื่องจากโดนลดโรงฉายไปเกือบ 60 โรง!แต่ถึงจะตกสวรรค์ หรือลงนรก หนังเทพพิโรธก็เก็บรายได้รวมไปแล้วกว่า 72 ล้านบาท

3 Titanic 3D Titanic 3D ในอันดับ 3 ที่ไม่ยอมปล่อยอันดับนี้ไปได้ง่ายๆ เกาะอยู่อันดับเดิมจากสัปดาห์ที่แล้ว ด้วยรายได้ที่เก็บไปอีก 4 ล้านบาท ลดลงจากสัปดาห์ก่อนไม่ถึงครึ่ง!รวม 2 สัปดาห์เก็บไปแล้ว 16 ล้านบาท และคงยืนระยะต่อไปได้อีกนิด ก่อนที่ฉากโชว์นมจะเสื่อมมนต์!

2 มะหมา 2 มะหมา 2 หนังไทยรักสัตว์ที่ยังคงรั้งอยู่ในอันดับ 2 กับรายได้ที่ทำไป 4.5 ล้านบาท รวม 2 สัปดาห์ เก็บไปแล้วเกือบ 17 ล้านบาท สูสีกับหนังเรือล่มเลยทีเดียว

1Battleship เปิดตัวกระชากรายได้ไปสูงถึง 50 ล้านบาท เป็นสถิติเปิดตัวที่สูงที่สุดในปี 2012!!!สถิติเปิดตัวที่สูงที่สุดประจำปี 2012 เดิมเป็นของหนังไทย ATM เออรัก..เออเร่อ ที่เปิดตัวเมื่อ 19 มกราคมที่ผ่านมาด้วยรายได้ 44.8 ล้านบาท ตอนนี้เอทีเอ็มก็เออเร่อจริงๆซะที เพราะโดน Battleship สาดกระสุนซะแรงสสสสส์...ขนาดนี้!!!Battleship เปิดตัวด้วยโรงฉายที่เหมาทั้งจักรวาลไทย 238 โรงฉาย 3 วันฟันไปครึ่งร้อยล้าน แต่.. แต่..แต่หนังเรื่องนี้เปิดตัวก่อน 1 วันในรอบ 6 โมงเย็นเป็นต้นไป นั่นทำให้รายได้รวมทำไปสูงถึง 56 ล้านบาท นั่นหมายควายว่า แค่คืนเดียว ก็เสียวไปถึงสวรรค์ กว่า 6 ล้านบาทแน่ะ.. โอ์วว์ แม่ เจ้า!!!

วันนี้ในอดีต24 เมษายน พ.ศ. 2335

วันนี้ในอดีต

24 เมษายน พ.ศ. 2335 ฝรั่งเศสทดลองใช้เครื่องประหารชีวิตกิโยตินเป็นครั้งแรก

ความเป็นละครไทย

1. เวลานางเอกปลอมตัว พระเอกจะจำได้ตอนใกล้จบ แต่คนดูจำได้ตั้งแต่วินาทีแรกแล้ว

2.เวลานางร้ายใส่ร้ายนางเอก พระเอกจะเชื่อทุกที ไม่ว่าจะจริงหรือไม่จริง
3.พระเอกชอบเห็นแต่ตอนที่นางเอกจับมือ กอด กับผู้ชายคนอื่นแล้วเข้าใจผิดตลอด

4.นางเอกหน้าจะสวยตลอด แม้แต่เวลาตื่นนอน หรือป่วยใกล้ตาย ขนตาเด้ง แก้มชมพู

5.ตำรวจ รถพยาบาลชอบมาทีหลังทุกที

6.ไม่พระเอกก็นางเอก ต้องมีปัญหาครอบครัว

7.นางเอกชอบถูกจับไปไว้ที่โกดังร้าง และพระเอกจะตามไปช่วยทันเสมอโกดังก็มีเป็นตั้งมากมาย

8.เวลาพระเอกสู้กับคนร้ายคนร้ายเป็นสิบยิงไม่โดนพระเอก พระเอกคนเดียวยิงผู้ร้ายตายเรียบ
9.พ่อแม่ต้องกีดกันความรักทุกทีไป
10.ตอนจบ ตัวร้าย ไม่ตาย ก็ เป็นบ้า ไม่มีใครอยู่ชดใช้กรรม

เทรนด์การแต่งหน้า สปริง/ซัมเมอร์ 2012

เทรนด์การแต่งหน้า สปริง/ซัมเมอร์ 2012

………….เมคอัพทิปจากคุณมาร์โค คาสโทร NARS International Makeup Artist “คุณมาร์โค กล่าวว่า สำหรับเทรนด์การแต่งหน้าสปริง ซัมเมอร์ 2012 นี้จะเน้นการแต่งหน้าที่ไม่เยอะ มีการแต่งหน้า 2 แบบคือการเน้นที่ตาเข้ม และปากสีอ่อน หรือเน้นที่ปากสีเข้ม และตาสีอ่อน หน้าร้อน อากาศร้อนไม่ควรใช้ผลิตภัณฑ์หลายชิ้นแต่ควรใช้ผลิตภัณฑ์เดียวแต่มอบประสิทธิภาพที่หลากหลาย เพื่อเผยให้เห็นผิวที่ดูกระจ่างใส และการแต่งหน้าที่สมบูรณ์แบบ ดูเป็นธรรมชาติ สิ่งที่สำคัญมากๆ สำหรับหน้าร้อนนี้ คือไพร์มเมอร์ แนะนำ Pro-Prime Oil Free หรือ Pro-Prime SPF30” และตามด้วย NARS Pure Radiant Tinted Moisturizer

………..เทรนด์แต่งหน้าของ SS 2012 ที่ผู้หญิงทั่วไปสามารถนำไปปรับใช้ได้ในชีวิตประจำวัน สำหรับเทรนด์ของสปริงซัมเมอร์นี้เป็นการแต่งหน้าที่ไม่จัดมาก เน้นการเผยผิวที่ดูเรียบเนียน เป็นธรรมชาติ ผิวดูกระจ่างใส และสีสันในคอลเลคชั่นซัมเมอร์นี้ก็เป็นสีสันที่สวยมากๆ ด้วย เราจะเน้นที่การแต่งตาเข้ม และปากสีอ่อน หรือปากสีเข้มและแต่งตาสีอ่อน ไม่ต้องกลัวสีสัน ขอให้กล้าแต่ง สีที่ใช้บนรันเวย์ก็สามารถนำมาแต่งได้จริง

Make up Tips:
เมืองไทยเป็นประเทศที่ร้อน สำหรับหน้าร้อนนี้ จำเป็นมากสำหรับสาวๆ ที่จะต้องใช้ไพร์มเมอร์ลงก่อน เพราะไพร์มเมอร์จะช่วยให้เมคอัพติดทนนานขึ้น แล้วค่อยตามด้วยรองพื้นเนื้อบางเบาที่มีส่วนผสมของสารบำรุง แนะนำ NARS Pure Radiant Tinted Moisturizer SPF30 PA+++ มอยส์เจอไรเซอร์เจือสีสูตรใหม่ที่มาเหมือนใคร ด้วยส่วนผสมที่นาร์สได้คัดสรรมาจากเฟรนช์ โพลินีเซีย เกาะโพ้นทะเล ที่ไม่เพียงช่วยให้ผิวดูเรียบเนียน แต่ยังช่วยลดเลือนริ้วรอย มอบผิวที่ดูกระจ่างใสขึ้น และยังปกป้องผิวจากแสงแดดได้อีกด้วย สามารถใช้เดี่ยวๆ เลยก็ได้ เพราะมีส่วนผสมบำรุงมากมาย และมีให้เลือกถึง 9 เฉดสี
วิธีการรองพื้นที่สมบูรณ์แบบ
เริ่มด้วยไพร์มเมอร์ Pro-Prime Oil Free ทั้งหน้า หรือเน้นบริเวณทีโซน และตามด้วย NARS Pure Radiant Tinted Moisturizer ปิดท้ายด้วย NARS Concealer สำหรับผิวบริเวณรอบดวงตาหรือเฉพาะจุดที่ต้องการปกปิด
วิธีการปกปิดสำหรับผิวที่มีจุดด่างดำ
สำหรับคนที่มีปัญหาเรื่องจุดด่างดำ นอกจากไพร์มเมอร์และรองพื้นแล้ว ให้ใช้นาร์สคอนซีลเลอร์เพิ่มด้วย เพื่อให้การปกปิดสมบูรณ์แบบยิ่งขึ้น
วิธีการเขียนคิ้ว
ให้วาดตามแนวคิ้วด้านล่างก่อนแล้วค่อยเขียนปลายต่อออกไปโดยไม่วาดปลายให้ทิ่มลง ไม่ต้องเขียนเส้นหนาตลอดทั้งเส้นเพราะจะทำให้คิ้วดูหนาเป็นแท่ง ไม่เป็นธรรมชาติ
วิธีทาปากให้ติดทนนาน
ทาลิปไลเนอร์และใช้ NARS Loose Powder แตะที่ริมฝีปาก และทาลิปซ้ำอีกครั้งจะช่วยทำให้ลิปติทนนานขึ้น
ฝากถึงสาวไทย
สาวไทยรักเมคอัพ และสาวไทยมีรูปปากที่สวย ต้องเน้นที่ลักษณะเด่นของตัวเองคือทำให้ส่วนนั้นเด่นขึ้นมา ไม่ต้องกลัวเรื่องสี สามารถใช้ได้ทุกสี เน้นส่วนไหนให้แต่งส่วนนั้นก่อน เช่น เน้นแต่งตาเข้มก็ให้แต่งตาก่อนแล้วค่อยทาปาก หรือถ้าเน้นที่ปากก็ให้แต่ปากก่อนค่อยแต่งตา

ตาอ่อนปากสีเข้ม

ตาเข้มปากสีอ่อน

เทรนด์สปริงซัมเมอร์เน้นการเผยผิว

ขอเชิญชาวกระบี่และทุกท่านร่วมภาคภูมิใจและเป็นส่วนหนึ่งของประวัติศาสตร์ 140 ปีเมืองกระบี่

ขอเชิญชาวกระบี่และทุกท่านร่วมภาคภูมิใจและเป็นส่วนหนึ่งของประวัติศาสตร์ 140 ปีเมืองกระบี่ ระหว่างวันที่ 5 - 13 พฤษภาคม พ.ศ. 2555 ณ บริเวณหน้าศาลากลางจังหวัดกระบี่ ชมการแสดง แสง สี เสียง นิทรรศกาลประวัติศาสตร์เมืองกระบี่ พิธีสืบชะตาเมือง พิธีการทุกศาสนา การแสดงศิลปวัฒนธรรม กิจกรรมสาธารณประโยชน์ กีฬานันทนาการ และสินค้า OTOP

สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมที่ ททท. สำนักงานกระบี่ โทร. 075 622 163

คุณคิดว่าระหว่างอาชีพบริการและอาชีพผลิตอาชีพใดดีกว่ากัน

คุณคิดว่าระหว่างอาชีพบริการและอาชีพผลิตอาชีพใดดีกว่ากันนี่คือหัวข้อในการโต้วาทีของห้องเรียนได้บทสรุปที่ว่าทั้งสองอาชีพต่างมีความสำคัญเท่ากันค่ะใครมีความเห็นอะไรก็โพสต์ได้เลยน่ะค่ะขอบคุณค่ะ

คำคมดีดี

สิ่งที่ทนที่สุดคือ หน้า

สิ่งที่กล้าที่สุดคือ ใจ

สิ่งที่ไวที่สุดคือ ปาก

สิ่งที่มากที่สุดคือ อารมณ์

สิ่งที่คมที่สุดคือ คำพูด

 

ความรู้รอบตัวเพื่ออ่านประดับความรู้ในสมอง

เข้าไปที่นี่เลยน่ะค่ะhttp://www.sheetram.com/main/article_detail.php?id=16

28ข้อคิดในการดำเนินชีวิต

28 ข้อคิดในการใช้ชีวิต เป็นข้อคิดที่เก็บไว้เมื่อนานมาแล้ว แต่เมื่อเอามาอ่านอีกทีก็พบว่ายังเป็นเรื่องที่ดีมากๆที่ควรแบ่งปันให้รับรู้โดยทั่วกัน ได้มาจากฟอเวิร์ดเมล์เมื่อนานมาแล้ว ลองอ่านกันดูนะ

1.อย่าทำลายความหวังของใคร เพราะทั้งชีวิตเขาอาจเหลืออยู่แค่นั้นก็ได้

2.เมื่อมีคนเล่าว่าเขามีส่วนร่วมในเหตุการณ์สำคัญ จง เป็นผู้ฟังที่ดีอย่าไปคุยทับ อย่าไปขัดคอ

3.จงตั้งใจฟังให้ดี โอกาสทองบางทีมันก็มาถึงแบบแว่วๆเท่านั้น

4.หยุดอ่านคำอธิบายสถานที่ทางประวัติศาสตร์ตามทางบ้างเพราะมีอะไรดีๆบางอย่างซ่อนอยู่

5.จะคิดทำการใดจงคิดการให้ใหญ่เข้าไว้ แต่ให้เติมความสนุกสนานลงไปด้วยเล็กน้อย

6.หัดทำสิ่งดีๆให้กับผู้อื่นจนเป็นนิสัยโดยไม่จำเป็นต้องให้เขารับรู้

7.จงจำไว้ว่า ข่าวทุกชนิดล้วนถูกบิดเบือนมาแล้วทั้งนั้น

8.เวลาเล่นเกมกับเด็กๆก็ปล่อยให้เด็กชนะไปเถอะ

9.ใครจะวิจารณ์เรายังงัยก็ตาม อย่าเสียเวลาไปโต้ตอบ แต่ให้ปรับปรุงตนเอง

10.จงให้โอกาสผู้อื่นเป็นครั้งที่ “สอง” แต่อย่าให้ถึง “สาม”

11.อย่าให้วิจารณ์นายจ้าง ถ้าทำงานไม่มีความสุขก็ลาออกดีกว่า

12.ทำตัวให้สบาย อย่าคิดมาก ถ้าไม่ใช่เรื่องคอขาดบาดตายแล้วอะไรๆ มันก็ไม่สำคัญอย่างที่คิดไว้แต่แรกหรอก

13.ใช้เวลาให้น้อยๆในการคิดว่า”ใครผิด” แต่ใช้เวลาให้มากในการคิดว่า”อะไร” เป็นสิ่งที่ผิด

14.จงจำไว้ว่าเราไม่ได้ต่อสู้กับ ” คนโหดร้าย ” แต่กำลังสู้กับ ” ความโหดร้าย ” ในตัวคน

15.โปรดคิด คิด คิด และคิดให้รอบคอบ ก่อนที่จะให้เพื่อนเรามีภาระในการเก็บรักษาความลับ

16.ยอมที่จะแพ้ในสงครามย่อยๆ เมื่อการแพ้นั้นจะทำให้เราชนะในสงครามใหญ่

17.เป็นคนถ่อมตน จำไว้ว่าคนอื่นทำอะไรต่อมิอะไรสำเร็จกันมามากมายก่อนเราเกิดเสียอีก

18.ไม่ว่าจะตกอยู่ในสถานการณ์เลวร้ายสักเพียงใด จงสุขุมเยือกเย็นเข้าไว้

19.มีมารยาทและอดทนกับคนที่สูงวัยกว่าเสมอ

20.อย่าให้ปัญหาของเราทำให้คนอื่นต้องเบื่อหน่าย ถ้ามีใครมาถามว่า ” เป็นไง?” ตอบไปเลยว่า ” สบายมาก”

21.อย่าพูดว่าเรามีเวลาไม่พอ เพราะทุกคนในโลกก็มีเวลาวันละ 24 ชม.เท่ากัน

22.จงเป็นคนใจกล้าและเด็ดเดี่ยว เมื่อเหลียวไปดูอดีต เราจะเสียใจในสิ่งที่ควรทำแล้วไม่ได้ทำ มากกว่าเสียใจในสิ่งที่ทำไปแล้ว

23.ประเมินตนเองด้วยมาตรฐานตนเอง ไม่ใช่มาตรฐานคนอื่น

24.จริงจัง และเคี่ยวเข็ญต่อตนเองให้มาก แต่จงอ่อนโยนและผ่อนปรนต่อผู้อื่น

25.ให้ความนับถือแก่ทุกคนที่ทำงานเพื่อเลี้ยงชีพโดยสุจริต ไม่ว่างานนั้นจะดูแย่แค่ไหนในสายตาคนรอบข้าง

26.คำนึงถึงการมีชีวิตให้ ” กว้างขวาง ” มากกว่าการมีชีวิตเพื่อ ” ยืนยาว ”

27.(บางครั้ง) อย่าไปหวังเลยว่าในชีวิตนี้จะมีความยุติธรรม

28.ว่ากันว่ามี 3 สิ่งที่ไม่ควรถูกทำให้แตกหรือทำลาย ได้แก่ ของเล่นเด็ก คำสัญญาและจิตใจของใครๆ ก็ตาม

ขอบคุณข้อมูลดีดีน่ะค่ะ

สาระน่ารู้วิทยาศาสตร์

ลองเปิดดูน่ะค่ะมีสาระมากค่ะhttp://www.lib.kmutt.ac.th/st4kid/nonFlash/index.jsp?pageKey=sci

น่ารักไหมค่ะ

น้องสปาน้องสปายค่ะ